Header Image
หน้าแรก/Home
ข่าวสารสมุนไพรและสุขภาพ
ข่าวสารการจัดการธุรกิจสปา
ข่าวสาร/กิจกรรม
สมัครสมาชิกชมรมวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย
ความรู้ด้านสปาเพื่อสุขภาพ
ข้อมูลด้านการแพทย์ทางเลือก
กฎหมายวิชาชีพ/สถานพยาบาล
ข้อมูลโรค/ปัญหาสาธารณสุข
สาระสมุนไพรน่ารู้
เว็บลิ้งค์/Links
เว็บบอร์ด/Board
ผู้พัฒนาเว็บไซต์/เว็บมาสเตอร์
ค้นข้อมูล/Advanced Search
ห้องสมุดออนไลน์รวมลิ้งก์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย
Login Form
ชื่อผู้ใช้

รหัสผ่าน

จำข้อมูลการล็อกอิน
ลืมรหัสผ่าน?
เว็บเครือข่าย
BanBuaThai.com
สนง.ส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพ
มูลนิธิการแพทย์ทางเลือกเพื่อมะเร็ง
ได้รับความนิยมสูง
ข่าวสารล่าสุด
โพลล์
ท่านคิดว่าเว็บไซต์นี้ควรพัฒนาในเรื่องใดมากที่สุด
  
Who's Online
ขณะนี้มี 11 บุคคลทั่วไป ออนไลน์
กระจายข่าว
สถิติการใช้งาน
ผู้เยี่ยมชม: 3117434
หน้าแรก/Home
อันตรายจากสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต PDF พิมพ์ ส่งเมล
เขียนโดย อ.อุไรรัตน์ สิงหนาท-Webmaster   

หมอเตือนเด็กเล่น"สมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต" เสี่ยงเป็นโรคสายตาสั้นเทียม

  •          เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นพ.ศักดิ์ชัย วงศ์กิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ซึ่งมีหน้าจอระบบสัมผัส และมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ รวมไปถึงแท็บเล็ต ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพา และมีหน้าจอระบบสัมผัสที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน กำลังได้รับความนิยมมากในประชาชนทุกวัย หากดูในส่วนของจอทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตนั้นจะมีแสงสว่างในลักษณะเดียวกับจอคอมพิวเตอร์ ดังนั้น หากหน้าจอมีความสว่างเกินไป และไปจ้องนานๆ จะทำให้รูม่านตาหดตัว จนส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยตามากกว่าปกติ รวมไปถึงจะทำให้ตาแห้ง ระคายเคืองกระจกตาได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเด็กจะมีความสามารถในการเพ่งตามากกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้น เมื่อเด็กเพ่งจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน เพื่อเล่นเกม จะส่งผลให้เกิดอาการสายตาสั้นเทียม กล่าวคือ เด็กจะมีอาการเหมือนคนสายตาสั้น มองเห็นอะไรไม่ชัด แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองหากได้พักสายตา


              นพ.ศักดิ์ชัยกล่าวอีกว่า พ่อแม่บางคนไม่รู้ว่าเด็กมีอาการสายตาสั้นเทียม พอเด็กบอกว่ามองเห็นอะไรไม่ชัดก็พาไปตัดแว่นสายตาใส่ทันที แต่พออาการสายตาสั้นเทียมของเด็กหายเป็นปกติก็ไม่จำเป็นต้องใส่แว่น ดังนั้น หากเด็กเกิดอาการมองเห็นอะไรไม่ชัดหลังจากเล่นเกมในแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานให้พาไปพบจักษุแพทย์ก่อน


              ทั้งนี้ ในปัจจุบันพบเด็กมีอาการดังกล่าวเยอะมาก และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น โดยจากการเก็บข้อมูลจากแผนกตา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) เมื่อปี 2554 พบว่าเด็กที่เข้ามารับการรักษาในแผนกนี้มีประมาณปีละ 30,000 คน โดยร้อยละ 20-30 มีปัญหาเรื่องสายตา และในจำนวนนี้พบว่ามีภาวะของอาการสายตาสั้นเทียมอยู่ประมาณ 1 ใน 3 และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการเกิดสายตาสั้นเทียมนี้จะสามารถหายเป็นปกติได้โดยให้เด็กหยุดเล่นเกม เพื่อลดการเพ่งสายตา 1 วัน ก็จะหายเป็นปกติ แต่หากหยุดเล่นเกมแล้วอาการยังไม่หายให้รีบมาพบจักษุแพทย์ทันที


  • แหล่งข่าวโดย.... เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ


    [13/มี.ค/2555]

    แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( Friday, 16 March 2012 )
    < ก่อนหน้า   ถัดไป >
    Free template "Frozen New Year" by [ Anch ] Gorsk.net Studio. Please, don't remove this hidden copyleft! You have got this template gratis, so don't become a freak.